ยุคสมัยนี้ใครๆ ก็ต่างดูแลความสวยงาม อย่ารอช้าและดูแลตัวเองกันเถอะ

กลับมากับบทความสุขภาพอีกครั้งกับ Healthofproduct ที่จะนำ

สิ่งดีๆ ให้กับทุกคนที่รักสุขภาพ หลังจากที่ห่างหายไปเป็นเดือน

วันนี้ที่จะนำมาแบ่งปัน ก็เป็นสิ่งที่ปัจจุบันหรือยุคสมัยนี้มีอะไร

ก้าวหน้าไปมากๆ ไม่พ้นเรื่องความสวยงามนั่นเอง เรามาดูกันเลย

วิถีความสวยแห่งยุค

Credit ภาพจาก google.co.th

เรื่องความสวยนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างยิ่งสำหรับวิถีชีวิตในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสุภาพสตรี

หรือสุภาพบุรุษทุกๆ คนก็อยากจะมีผิวพรรณที่สดใส ขาวเนียน เต่งตึง ไร้ริ้วรอย เพื่อให้แลดูอ่อนเยาว์

กว่าวัย ถ้าพวกเราสังเกตดูจะพบว่าในอดีต ไม่มีคลินิกผิวพรรณความงาม มีแต่คลินิกรักษาโรคทั่วไป

หรือมีแค่คลินิกรักษาโรคผิวหนัง ซึ่งเป็นคลินิกที่รักษาโรคผิวหนังทั่วๆ ไปที่ไม่ได้ดูแลผิวพรรณแต่

อย่างใด

แต่ในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีคลินิกผิวพรรณความงามขึ้นเป็นดอกเห็ด ช่วงแรกๆ 

คลินิกเหล่านี้อยู่ตามถนนสายต่างๆ ต่อมาก็ขึ้นไปอยู่บนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ห้างบางแห่ง

มีคลินิกผิวพรรณความงามเกือบ 20 คลินิก คลินิกผิวพรรณความงามบางแห่งมีสาขาถึงร้อยกว่าสาขา

ทั่วประเทศ ที่สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วก็เพราะความต้องการความสวยของผู้คนในปัจจุบัน

นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง

     ผมเองซึ่งเป็นหมอ หู คอ จมูก และภูมิแพ้ ก็มองเห็นถึงความต้องการในเรื่องความสวยความงาม

ของผู้คน เมื่อ 8 ปีที่แล้ว จึงศึกษาต่อเพิ่มเติมเรื่องเวชศาสตร์ผิวพรรณและความงามที่มหาวิทยาลัย

แม่ฟ้าหลวง เมื่อมีความรู้ในด้านนี้ จึงตัดสินใจเปิดคลินิกผิวพรรณและความงามสาขาแรก ปรากฏว่า

ได้รับผลตอบรับจากผู้มารับบริการเป็นจำนวนมาก จึงค่อยๆ ขยายสาขาเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันนี้ผมมี

คลินิกผิวพรรณและสถาบันความงาม 8 สาขา ด้วยกัน ได้ตรวจและทำการรักษา ฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ที่

ต้องการเพิ่มความสวยความหล่อตามยุคสมัยมาแล้วอย่างมากมาย

ผู้ที่มารับบริการที่คลินิกผิวพรรณและความงามเพื่อต้องการผิวพรรณ

ที่ดีขึ้นนั้น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน 

1. กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องสิว

Credit ภาพจาก google.co.th

      เป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยสุด พวกกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนมัธยม นิสิตนักศึกษา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง

ฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น ซึ่งสิวบนใบหน้าเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมากและมีการอุดกลั้นทาง

เดินของไขมัน เป็นสิวที่ไม่อักเสบ อาจมีหัวขาวหรือหัวดำก็ได้ หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะ

ทำให้เกิดการอักเสบของสิว จนกลายเป็นหนองได้ นอกจากสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของ

ฮอร์โมนแล้ว ยังมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ อารมณ์ อากาศ การละคายเคืองผิวและยาบางชนิด

ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้ การป้องกันการเกิดสิวมีข้อแนะนำดังนี้คือ การรักษาความสะอาดของ

ผิวหนา ควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ลดภาวะเครียด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและ

รับประทานผักสีเขียวเพิ่มมากขึ้น การรักษาสิวในคลินิก เริ่มต้นด้วยการทำทรีทเม้นท์หน้า 

เช่น ทำความสะอาดผิวหน้า กดสิว มาส์คสิว การใช้ครีมหรือโลชั่นฆ่าเชื้อทาเพื่อป้องกันการ

เกิดสิว และช่วยรักษาสิวอักเสบ ในรายที่เป็นสิวมากอาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะบางชนิด

หรือยาลดการเกิดสิว เพียงแค่นี้ก็จัดการปัญหาเรื่องสิวได้ 

2. กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ

Credit ภาพจาก google.co.th

     กลุ่มนี้มีอายุมากขึ้น ประมาณ 25 ปีขึ้นไป ฝ้า กระบนใบหน้าเกิดจากความผิดปกติของการสร้างสีผิว 

ของผิวหนังในบางแห่งที่เกิดขึ้นมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้มและสันจมูก เนื่องจาก

เป็นบริเวณที่ถูกแสงแดดได้บ่อยที่สุด แสงแดดจึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเม็ดสีในชั้นผิวหนังของเรา

สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ การใช้ยาคุมกำเนิดที่ทำให้เกิดฝ้าและกระ

เพิ่มขึ้น พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

     การรักษาฝ้าหรือกระในคลินิกนั้น เริ่มต้นด้วยการทำทรีทเม้นท์ต่างๆ เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วย

กรดผลไม้ (AHA) อ่อนๆ การส่งตัวยาผ่านลงในชั้นผิวเช่น ไอออนโต การใช้เข็มสะกิดที่เรียกว่า

เมโสเธอราปี (Mesotherapy) การใช้ Laser ความยาวคลื่นต่างๆ เช่น Q-switched,Nd:yag หรือ

Fraxel เพื่อกำจัดเม็ดสีที่เข้ม การใชลำแสงที่มีพลังงาน IPL (Intense pulse light) เพื่อลดรอย

ด่างดำ การรับประทานยาบางชนิดที่ส่งผลให้ผิวขาวเนียนใสขึ้น เช่น Glutathione, Co Q10,

Vitamin C และ E เป็นต้น

3. กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย

Credit ภาพจาก google.co.th

     ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอายุมากที่สุด ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไปจนสูงอายุปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจาก

กระบวนการเสื่อมชราของผิวหนังซึ่งมักจะเกิดขึ้นที่บริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก หน้าผาก และ

ร่องแก้ม บางคนมีริ้วรอยบนใบหน้ามากเรียกว่า หน้าชราภาพมากกว่าอายุจริง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาก

มายที่ทำให้เป็นเช่นนี้ เช่น จากกรรมพันธุ์ จากแสงแดดและจากความเครียดรวมถึงการได้รับ

อนุมูลิสระจากอาหารการกินมากเกินไป หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นการสูบบุหรี่ 

ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น 

     การรักษาริ้วรอยในคลินิกเริ่มตั้งแต่การทำทรีทเม้นท์หน้าเพื่อให้ผิวหนังบนใบหน้ายกกระชับขึ้น 

การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อช่วยยกกระชับผิวหนัง (Thermage) การใช้ลำแสง 

IPL (Intense pulse light) การใช้เลเซอร์ช่วยให้ผิวหน้าเนียนเรียบขึ้น

     นอกจากการทำทรีทเม้นท์แล้วการใช้เซรั่มและครีมยังช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงและเนียนเรียบมากขึ้น

ได้ในรายที่มีริ้วรอยมากๆ การใช้วิธีฉีดยาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เช่น การฉีด

โบท็อกซ์ (Botox) ฉีกฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มเช่น Hyaluronic acid เป็นต้น เพียงเท่านี้

ก็จะทำให้สวยขึ้นหล่อขึ้น และดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้แล้วครับ ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังนั้น ถือว่าเป็นเทรนด์

ความต้องการของคนในสังคมปัจจุบันนี้ ที่อยากจะดูดีอยู่ตลอดเวลา อยากมีผิวพรรณที่สดใส 

ขาวเนียน เต่งตึง ไร้ริ้วรอย ซึ่งเป็นเรื่อง "วิธีความงามแห่งยุค" จริงๆ 

ก็จบากบทความเรื่องความสวยความงามกันไปแล้ว เป็นอย่างไร

กันบ้างครับ เรื่องความสวยของในยุคปัจจุบันไม่มีใครหนีพ้น

เพราะมันกลายเป็นเทรนด์ยุคปัจุบัน ใครๆ ก็ชอบความสวยงาม

เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในสมัยนี้ ครั้งต่อไป Healthofproduct

ก็จะนำข้อมูลที่มีประโยชน์แบบนี้มาฝากกันแน่นอนครับ

รับรองไม่นานแน่นอน

ขอขอบคุณที่มาบทความประโยชน์สาระดีๆ 

By : นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์