วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

โรคแพ้อากาศ โรคตัวอันตรายต่อสุขภาพที่หลายๆ คนเป็นกัน

โรคแพ้อากาศ โรคยอดฮิตนี้ที่ใครทุกคนก็เป็นกันหลายๆ คนอาจ
จะเคยศึกษาหรืออ่านบทความของเรื่องโรคนี้มาหลายๆ ที่
แต่วันนี้ Healthofproduct ก็ได้นำข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์มา
ฝากกับคนที่รักสุขภาพทุกๆ คน ราไปเรียนรู้เพิ่มเกี่ยวกับ
โรคแพ้อากาศที่ว่านี้กันเลย 






โรคแพ้อากาศ


โรคที่พบบ่อยมากที่สุดโรคหนึ่งที่เป็นโรค Top Hit ที่คนมักจะ
พูดกันว่า "ใครๆ เขาก็เป็นกัน" นั่นก็คือ "โรคแพ้อากาศ" ผมเอง
ก็เคยเป็นโรคนี้สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ปีที่ 2-3 ที่คณะแพทย์
ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นรุนแรงถึงขนาดจามและน้ำมูกไหล
ตลอดทั้งวัน ต้องใช้กระดาษทิชชู่ เช็ดน้ำมูกเป็นม้วนๆ ต่อวัน
ทำให้ขาดสมาธิในการเรียน พอหนักเข้าก็โดดเรียนไปเลย
แต่โชคดีที่อยู่โรงเรียนแพทย์ จึงมีนักศึกษาแพทย์รุ่นพี่พบ
อาจารย์ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา (หู คอ จมูก) ซึ่งมี
ความเชี่ยวชาญในเรื่องโรคแพ้อากาศโดยตรง ท่านทำผลงาน
วิจัยและเขียนตำราจนเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
ของประเทศไทยในขณะนั้น ผมได้รับการทดสอบภูมิแพ้ทาง
ผิวหนัง และถูกฉีดวัคซีนนานหลายปี จากฉีดทุกสัปดาห์ใน
ช่วงแรกแล้วค่อยๆ ห่างขึ้นจนภายหลังฉีดห่างเป็น 1-2 เดือน
ต่อครั้ง อาการต่างๆ ที่เคยเป็นก็ค่อยๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ
จนกระทั่งในที่สุดก็หายเป็นปกติ ด้วยความผูกพันที่มีต่อภาค
วิชานี้ เมื่อจบออกไปเป็นแพทย์ ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
ชุมชน 3 ปี ก็กลับข้ามาเรียนต่อที่ภาควิชานี้อีก 3 ปี จนได้รับ
วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขา หู คอ จมูก



หลังจากที่จบเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เข้าไปทำงานที่
โรงพยาบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีพร้อมๆ กับเปิดคลินิก
รักษาโรค หู คอ จมูกและภูมิแพ้ด้วย ในการตรวจรักษาผู้ป่วย
ทั้งที่โรงพยาบาลและที่คลินิก โรคที่พบบ่อยที่สุดอย่างไม่ต้อง
สงสัย ก็คือ "โรคแพ้อากาศ" บางครั้งซักประวัติผู้ป่วย 1-2 
ประโยคก็แทบจะวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องตรวจแล้วว่าเป็นโรคแพ้
อากาศพอตรวจจมูกเพิ่มเติม ก็ยืนยันชัดเจนว่าเป็นโรคนี้
ผมได้รักษาผู้ป่วยโรคแพ้อากาศไปเป็นจำนวนมากตลอดระยะ
เวลา 18 ปีที่ผ่านมา ให้การรักษาด้วยการรับประทานยา 
ใช้ยาพ่นจมูก ตลอดจนฉีดวัคซีนกระตุ้น ทั้งที่โรงพยาบาล
และที่คลินิก ด้วยความที่เป็นโรคที่พบได้บ่อย จึงอยากให้ทุกๆ 
ท่านมีความรู้เกี่ยวกับ "โรคแพ้อากาศ" เพิ่มมากขึ้น 

"โรคแพ้อากาศ" ชื่อที่ถูกต้องของโรคนี้คือ 
"โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้" เป็นโรคที่พบได้ทุกเพศ ทุกวัย
และทุกเชื้อชาติทั่วโลก อุบัติการณ์ของโรคนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ ปัจจุบันพบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใหญ่เป็นร้อยละ 20 และเด็กเป็น
ร้อยละ ประมาณ 40 ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการเกิดขึ้นขณะที่
อากาศเปลี่ยนแปลงหรือมีอาการชัดเจนเฉพาะบางฤดู 
จึงทำให้ได้ชื่อว่าโรคแพ้อากาศ




อาการที่พบบ่อย ได้แก่

1. คันจมูก บางรายอาจคันตา คันเพดาน คันในคอ 
2. จามติดๆ กันหลายๆ ครั้ง
3. มีน้ำมูกใสๆ ไหลมาก
4. คัดแน่นจมูก มักเป็นสลับข้างกัน
5. อาการอื่นๆ เช่น หูอื้อ ปวดมึนศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น น้ำมูกไหล
    ลงคอ หรือมีเสมหะติดในคอ หรือมีอาการอ่อนเพลีย




สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ


1. เหตุนำ เกิดจากความผิดปกติของระบบสร้างภูมิคุ้มกัน
    ของร่างกาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นกรรมพันธุ์ ดังนั้นผู้ที่เกิดมา
    ในครอบครัวที่มีโรคภูมิแพ้อยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นโรคหอบหืด
    โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ผื่นผิวหนังหรือลมพิษมีโอกาศที่จะ
    เป็นโรคในกลุ่มนี้มากกว่าคนอื่น 

2. เหตุโดยตรง คือสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่รอบๆ ตัวเรา และมีอยู่
    ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป สารก่อภูมิแพ้ที่ได้พบบ่อย คือ
    ฝุ่นในบ้าน ตัวไรในฝุ่น นุ่น ขนและรังแคของสัตว์เลี้ยง 
    เชื้อราในอากาศ ละอองเกสรของหญ้า และวัชพืชต่างๆ 
    สิ่งขับถ่ายของแมลงที่อยู่ในบ้าน เช่น แมลงสาบ ยุง และมด
    ผู้ป่วบางรายอาจแพ้สารบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานอาชีพ
    เช่น ปุ๋ย อาหารสัตว์ 

3. เหตุเสริม ได้แก่สาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ ได้แก่

    3.1 สารที่ระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูกโดยตรง เช่น ควันไฟ ควัน
          ท่อไอเสีนยรถยนต์ ควันบุหรี่ กลิ่นฉุนๆ กลิ่นน้ำหอม 
          สเปรย์ และฝุ่นละอองต่างๆ 

    3.2 การเปลี่ยนแปลงของอากาศเช่น อากาศร้อนจัด เย็นจัด
          ฝนตก พัดลมเป่า แอร์เป่า เป็นต้น 

    3.3 ร่างกายอ่อนเพลีย เนื่องจากอดนอน ทำงานหนัก ขาดการ
          ออกกำลังกาย ฯลฯ

    3.4 อารมณ์ตึงเครียด วิตกกังวล ไม่สบายใจ

    3.5 โรคติดเชื้อ เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บคอ ฟันผุหรือ
          ไข้หวัด จะทำให้สุขภาพอ่อนแอลง เป็นเหตุให้ผู้ป่วย
          โรคภูมิแพ้มีอาการมากขึ้นได้



โรคแทรกซ้อน 


โรคแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยคือ โรคไซนัสอักเสบ หูชั้นกลาง
อักเสบ คออักเสบ ริดสีดวงจมูกและโรคหอบหืด ดังนั้นเมื่อทราบ
ว่าป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จึงควรรีบรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้มีอาการ
เกิดขึ้น จึงจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้
ตามมาได้ ทั้งหมดนี้คือเรื่องราว "โรคแพ้อากาศ" ฉบับย่อที่
ปารถนาให้ผู้อ่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรคนี้ เมื่อเจอะเจอ
ใครที่มีอาการทางจมูกหลายอาการ ให้สงสัยว่ามีโอกาศที่จะเป็น 
โรคแพ้อากาศได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกๆ ท่านจะมีสุขภาพที่
แข็งแรง ไม่เป็น "โรคแพ้อากาศ" ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว








แนวทางการรักษา


1. ไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคจมูกอักเสบ
    จากภูมิแพ้จริงหรือไม่ บางรายต้องทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง 
    หลังทดสอบประมาณ 20 นาทีจะทราบว่าแพ้อะไรบ้างและแพ้
    มากน้อยเพียงใด

    เมื่อวินิจฉัยแน่ชัดแล้ว แพทย์มักจะให้การรักษาด้วยการ
    รับประทานยา ใช้ยาพ่นจมูกหรือพิารณาฉีดวัคซีนกระตุ้น
    ภูมิต้านทานในบางรายที่มีอาการมาก

2. พยายามกำจัดและหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ ผู้ป่วยที่สามรถกำจัด 
    หรือลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ
    ตัวให้เหลือน้อยที่สุด อาการอาจจะดีขึ้นโดยไม่ต้องรักษา
    เลยก็ได้ ดังนั้นจึงต้องเน้นให้ทำก่อนเป็นอันดับแรก

3. พยายามหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการ
    เนื่องจากเยื่อบุจมูกของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะมีความว่องไวต่อ
    สารระคายเคืองเหล่านี้มากกว่าคนปกติทั่วไป

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานทำให้โรค
    ภูมิแพ้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

5. พักผ่อนให้เพียงพอและไม่เครียด





และแล้วก็จบบทความนี้ซึ่งข้อมูลของโรคภูมิแพ้อากาศนี้
มีข้อมูลที่เยอะ ซึ่งบทความนี้ได้ทำแบบย่อมา แต่ก็ทำให้เรา
เข้าใจและศึกษาพื้นฐานของการเกิดโรค รวมไปถึงการป้องกัน
ก่อนท่โรคภัยจะมาเกิดกับตัวเรา




ขอขอบคุณบทความที่มีประโยชน์ต่อทุกๆ คน

Health By : นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น